หัวข้อ : เล่มที่ ๑ ยอดฝีมือซื่อบื้อ ตอนที่ ๑ ตะลุยมั่วซั่ว

โพสต์เมื่อ 2 ก.พ. 2555, 20:17

เล่มที่ ๑ ยอดฝีมือซื่อบื้อ

 

ตอนที่ ๑

 

ตะลุยมั่วซั่ว

 

“ยินดีต้อนรับสู่โลกของ ‘ราชาแห่งราชัน’ ทางเรากำลังทำการตรวจสอบ username และ password ของท่านว่าถูกต้องหรือไม่ กรุณารอสักครู่ค่ะ” เสียงหวานใสดังขึ้น ถึงจะเพราะดี แต่แค่ฟังก็รู้แล้วว่าเป็นเสียงจากคอมพิวเตอร์

“แปลกแฮะ...ไหนว่าราชาฯเป็นเกมออนไลน์เกมแรกที่ไม่ใช้ NPC[1] ไง แต่ไหงเข้ามาในเกมปุ๊บ ก็เจอ NPC เป็นคนแรกเลยล่ะนี่ ?” เฉินเฟิงคิดอย่างสุดเซ็ง เริ่มนึกเสียดายที่ดันใจร้อนเกินไป ทั้งที่เห็นอยู่ชัดๆ ว่าโฆษณามันหลอกลวง เลยกลายเป็นว่าเพิ่งเข้ามาแค่หน้าลงทะเบียนเล่นเกม เขาก็อยากเลิกเล่นเสียแล้ว

เสียงผู้หญิงจากคอมพิวเตอร์พูดตามหน้าที่ต่อไปว่า

“นี่คือ username ใหม่ กรุณาเลือกว่าจะใช้สถานะจริงหรือสถานะสมมติค่ะ เพื่อป้องกันความปลอดภัยของอาวุธในเกมที่ท่านจะได้รับในอนาคต ทางบริษัทขอแนะนำให้ท่านใช้สถานะจริงลงทะเบียน

“หากท่านต้องการเพียงจะลองสัมผัสโลกของเกม ก็สามารถใช้สถานะสมมติได้ค่ะ แต่ทางบริษัทขอเตือนว่า หากท่านใช้สถานะสมมติลงทะเบียน ท่านจะไม่ได้รับสิทธิบางประการของธนาคาร นอกจากนี้ทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบความปลอดภัยของสมบัติในเกมทั้งหมดที่ท่านจะได้รับในอนาคต”

“สมมติ”

เฉินเฟิงเลือกโดยแทบไม่ต้องคิด ถึงยังไงก็ไม่นึกอยากเล่นแล้ว ไม่เห็นจำเป็นต้องใช้สถานะจริงลงทะเบียน แม้จะจำได้รางๆ ว่าการลงทะเบียนทั้งสองประเภทแตกต่างกันพอสมควร แต่ตอนนี้เขาคิดแค่อยากจะออกจากเกมเร็วๆ จึงเอาสะดวกเข้าว่า

“กรุณาระบุ password ของท่านและวิธีติดต่อถึงท่านค่ะ ขอเตือนอีกครั้ง หากท่านใช้สถานะสมมติลงทะเบียน ท่านจะไม่ได้รับสิทธิบางประการของธนาคาร และทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบความปลอดภัยของสมบัติในเกมทั้งหมดที่ท่านจะได้รับในอนาคตค่ะ

“ขณะเดียวกันเนื่องจากท่านใช้สถานะสมมติ จึงขอให้ท่านรักษา username และ password ให้ดีด้วยค่ะ เพราะหลังจากลงทะเบียนครั้งที่สองนี้แล้ว จะไม่มีการยืนยันสถานะอีกต่อไป ใครก็ตามที่ทราบ username และ password นี้ ก็สามารถใช้ผู้เล่นตัวนี้ได้ เพื่อรักษาสิทธิประโยชน์ของท่าน หลังจากเข้าสู่เกมแล้ว ท่านสามารถไปยืนยันตัวเองอีกครั้งที่ฝ่ายทะเบียนได้ค่ะ”

เขาใส่ password ที่ใช้เป็นประจำ จากนั้นใส่ที่อยู่ที่เขาเองก็ไม่รู้ว่ามันคือที่ไหน นอกจาก password แล้ว ที่เหลือเขาใส่มั่วๆ เอาทั้งนั้น

“การเข้าสู่เกมจำเป็นต้องสร้างตัวละคร จะเริ่มสร้างตัวละคร ณ บัดนี้ กรุณาเลือกอายุ ช่วงอายุที่มีให้เลือกคือ ๒๐ - ๔๐ ปี ซึ่งตัวเลขที่เลือกนี้จะมีผลต่อความสามารถแรกเริ่มและความสามารถในการเพิ่มระดับในอนาคตค่ะ”

“๒๓” นี่ก็เป็นอายุจริงของเฉินเฟิง ในเมื่อมันอยู่ในช่วงอายุที่มีมาให้ เขาจึงใส่ตัวเลขนี้ไปตรงๆ โดยไม่ได้ใส่ใจนักเรื่องที่มันมีผลต่อขอบเขตความสามารถ

“กรุณาเลือกลักษณะหน้าตา”

เขาเลือกตัวเลือกชายหน้าตาธรรมดาแบบขอไปที ขณะที่คิดในใจว่าเสียเงินเปล่าแท้ๆ ถึงจะแค่ ๑๕๐ เหรียญก็เถอะ แต่เงินแค่นี้ก็พอค่าข้าวทั้งวันแล้วสำหรับคนที่กำลังตกงานอย่างเขา

แน่ละว่าคอมพิวเตอร์ย่อมจะไม่เข้าใจความคิดของเฉินเฟิง และพูดต่อไปตามขั้นตอน

“กรุณาตั้งชื่อให้ตัวละครค่ะ ความยาวไม่เกิน ๗ พยางค์”

เนื่องจากเฉินเฟิงเข้ามาเล่นเกมนี้โดยใช้เตียงจับคลื่นสมองร่วม ดังนั้นหากไม่ใช้วิธีปกติออกจากเกม ก็ไม่มีทางเลิกเล่นกลางคันได้ ตัวเขารู้ดีว่าพูดกับ NPC พวกนี้ไปก็ไร้ประโยชน์ พวกมันถูกตั้งโปรแกรมให้ทำได้แค่พูดตามโปรแกรมไปทีละขั้นๆ เท่านั้น ตัวเขาที่อยากจะออกจากเกมเร็วๆ จึงใส่ชื่อมั่วๆ ไปว่า

“ออกจากเกม”

“มีผู้ใช้ชื่อนี้ลงทะเบียนแล้ว กรุณาเลือกชื่ออื่นด้วยค่ะ”

เมื่อได้รับคำตอบแบบนี้ เฉินเฟิงก็ได้แต่อึ้ง ดูท่าเขาจะไม่ใช่คนเดียวที่ถูกโฆษณาหลอกเสียแล้ว จึงใส่ชื่อใหม่ไปว่า

“อะไรก็ได้”

“มีผู้ใช้ชื่อนี้ลงทะเบียนแล้ว กรุณาเลือกชื่ออื่นด้วยค่ะ”

ท่าทางคนที่ถูกหลอกเหมือนเขาจะเยอะไม่ใช่เล่น เฉินเฟิงชักโมโห จึงใส่ไปว่า

“ไม่สบอารมณ์” แล้วคิดในใจว่าคงไม่มีใครเลือกใช้ชื่อนี้หรอกนะ !

“มีผู้ใช้ชื่อนี้ลงทะเบียนแล้ว กรุณาเลือกชื่ออื่นด้วยค่ะ”

ยอมแพ้กับคำตอบของคอมพิวเตอร์จริงๆ เฉินเฟิงเดือดปุดๆ ใส่ชื่อลงไปติดต่อกันหลายสิบชื่อ ตั้งแต่ งี่เง่า , ปลอม , หลอกลวง , นิรนาม , นาย ก. ผู้ผ่านทาง , ฉันอยากออกจากเกม , ไอ้บ้า ฯลฯ น่าเสียดายที่ผลเป็นเหมือนเดิม คือมีผู้ใช้ชื่อพวกนี้ลงทะเบียนแล้ว ตัวเขาที่อึ้งสุดอึ้งได้แต่หันมาตั้งชื่ออย่างเอาจริงเอาจัง

เขาขุดชื่อบุคคลในประวัติศาสตร์ที่เขารู้จักตั้งแต่ยุคจักรพรรดิเหลืองเมื่อห้าพันปีก่อนยันยุคปัจจุบันกว่าร้อยชื่อมาใส่ แต่คำตอบที่ได้รับก็ยังเหมือนเดิม

“มีผู้ใช้ชื่อนี้ลงทะเบียนแล้ว กรุณาเลือกชื่ออื่นด้วยค่ะ”

สุดท้ายเขาได้แต่ใช้ชื่อของตัวเอง

“เฉินเฟิง”

ในที่สุดคอมพิวเตอร์ก็พูดว่า

“ชื่อนี้ยังไม่มีใครใช้มาก่อน ท่านยืนยันจะใช้ชื่อนี้หรือไม่ ?”

เฉินเฟิงรีบตอบว่า

“ยืนยัน !”

“ต่อไปจะขอรายงานความสามารถแรกเริ่มให้ท่านทราบ ชื่อของผู้เล่นคือเฉินเฟิง , อายุ ๒๓ ปี , เพศชาย , ระดับ ๑ , อาชีพผู้เริ่มต้น , พลังโจมตี ๐ - ๒๓ , พลังป้องกัน ๑ - ๒๓ , ทักษะพิเศษ (skill) ไม่มี

“นี่คือการเข้าสู่เกมครั้งแรกของท่าน หลังจากเข้าสู่เมืองแล้ว กรุณาเดินไปตามถนนทางขวามือสู่อาคารเริ่มต้นค่ะ”

หลังจากพูดจบ เสียงคอมพิวเตอร์ก็สลายไป จากนั้นร่างของเฉินเฟิงก็เหมือนร่วงวูบลงไปกะทันหัน

ประมาณสิบกว่าวินาทีให้หลัง ขณะที่หัวใจกำลังจะกระเด้งออกมาทางปาก ภาพตรงหน้าก็เกิดการเปลี่ยนแปลง สิ่งที่ปรากฏคือรอบนอกของเมืองแห่งหนึ่ง บรรยากาศออกแนวโบราณๆ เหมือนกลับไปสู่ประเทศจีนเมื่อสิบกว่าศตวรรษก่อน

เฉินเฟิงสงบจิตใจอย่างยากเย็น เห็นตรงหน้ามีทางสามสาย ทางเส้นกลางมุ่งไปสู่ตัวเมือง ทางซ้ายและขวาเป็นถนนเล็กๆ สายลมเย็นพัดมาแผ่วๆ ต้นไม้สองข้างทางไหวเบาๆ ความรู้สึกสมจริงอย่างมาก ผิวหนังสามารถรับรู้ได้กระทั่งอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลง

“เกมบัดซบนี่ไม่เหมือนเกมออนไลน์อื่นจริงๆ ไม่มีให้กระทั่งเมนูเกม !” เฉินเฟิงคลำหาทั่วทั้งตัวก็ไม่พบเมนูของเกม ดูท่าความซวยของเขาจะยังไม่สิ้นสุดเสียแล้ว !

รออยู่พักใหญ่ก็ไม่เห็นมี NPC คนใหม่หรือผู้เล่นหน้าไหนโผล่มาสักราย รอบด้านเงียบสงัดจนออกจะวังเวง เฉินเฟิงได้แต่นึกปลง เขาดันไม่ได้อ่านคู่มือมาเสียด้วย คงต้องลองไปที่ “อาคารเริ่มต้น” อะไรนั่นดูซะแล้ว เผื่อจะออกจากเกมได้

เดินไปครึ่งชั่วโมงเต็มๆ ทิวทัศน์สองข้างทางไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง จนบัดนี้ก็ยังไม่เห็นว่าอาคารเริ่มต้นมันแบนหรือมันกลม ที่น่าโมโหคือดันรู้สึกเมื่อยขาได้ด้วย เขาจำใจหาก้อนหินนั่งพักสักครู่ แล้วนวดขาที่เริ่มแข็งพลางมองสำรวจไปรอบด้าน

ที่นี่คือป่าสน ถ้าไม่ใช่เพราะมีทางน้อยสายนี้ เฉินเฟิงคงเริ่มสงสัยว่าตัวเองหลงทางหรือเปล่า สองข้างทางมีสัตว์ขนาดเล็กโผล่ออกมาเป็นระยะๆ นกแมลงร้องขับขาน ให้ความรู้สึกปลอดโปร่งไม่น้อย ตัวเขาอยู่แต่ในเมืองมาสิบกว่าปี นานมากแล้วที่ไม่มีโอกาสได้มาเดินเล่นในสภาพแวดล้อมอย่างนี้

ถึงยังไงวันนี้ก็ไม่มีธุระอะไร ตัวเขาหางานทำมาเกือบสามอาทิตย์ คำตอบที่ได้รับมีแต่ “กรุณารอทางเราติดต่อกลับไป” แถมวันนี้ยังเป็นวันหยุด ต่อให้อยากออกไปหางานต่อ ก็ไม่มีบริษัทไหนจัดให้สอบสัมภาษณ์ในวันหยุดอยู่ดี

เขาไม่ได้เล่นเกมแบบนี้เป็นครั้งแรก ปกติเกมประเภทนี้เมื่อเริ่มเข้าสู่เกม จะสามารถพบเมนูเกมได้จากในตัว

ความรู้สึกถูกหลอกในตอนแรกบรรเทาลงมากแล้วในเวลานี้ เฉินเฟิงเริ่มสังเกตความเปลี่ยนแปลงบนตัว เพราะคิดจะหาให้พบให้ได้ว่าเมนูเกมบ้าบอคอแตกนั่นมันซ่อนอยู่ตรงไหนกันแน่

เขามองตัวเองอย่างละเอียดอีกครั้ง เสื้อเชิ้ตผ้าแขนสั้น เสื้อกั๊กผ้า สายรัดเอวผ้า รองเท้าหญ้า บนเอวขวามีดาบสั้นพร้อมฝักหนึ่งเล่ม

“ไม่มีแล้ว...แค่นี้เนี่ยนะ ?” เฉินเฟิงโวย

ปกติแหวนหรือกำไลมักจะเป็นที่ซ่อนของเมนูเกม น่าเสียดายที่ค้นทั่วตัวแล้วไม่ยักพบอะไรอื่นอีกเลย เกมที่ได้ชื่อว่ามีผู้ออนไลน์[2]ร่วมเล่นพร้อมกันถึงล้านคนมันช่างขี้เหนียวกับมือใหม่อะไรอย่างนี้ ! แค่นั้นยังพอทำเนา นี่เขาเข้ามาในเกมตั้งเป็นนานสองนาน ยังไม่เห็นแม้แต่เงาใครสักคน แล้วคนล้านคนที่ว่าไปมุดอยู่ที่ไหนกันหมด ?

เฉินเฟิงเพิ่งจะตัดใจเลิกหา ทันใดนั้นก็มีเสียง “โครกคราก” แว่วมา

“จะบ้าตาย...นอกจากจะเมื่อยขาได้แล้ว ยังดันคอแห้งได้ด้วย แถมยังหิวอีกต่างหาก ไอ้เกมนี้มันจะทำได้เหมือนจริงเกินไปหน่อยแล้ว !” เฉินเฟิงคิดแล้วส่ายหน้า สุดท้ายจำต้องลุกขึ้นเดินต่อ

ต่อให้ไม่ได้อยากออกจากเกม ก็ต้องแก้ปัญหาเรื่องหิวข้าวกับคอแห้งอยู่ดี ถึงจะรู้ว่าทั้งหมดนี้ไม่ใช่ความจริง แต่ความรู้สึกที่เป็นอยู่ในเวลานี้มันก็จริงแท้แน่นอน

ไม่ทราบเฉินเฟิงไปทำผิดอะไรมาถึงได้โชคซวยอย่างมหาศาลปานนี้ ป่าที่เดิมทีเงียบสงบได้ปรากฏกองทัพหนอนยักษ์โผล่พรวดออกมาจากรอบด้าน ลำตัวอ้วนใหญ่สีเขียวสดยาวประมาณหนึ่งเมตร ส่งเสียงดังชี่ๆ ! แถมมีฟันซี่ใหญ่ยาวหลายนิ้วเต็มปาก ดูแล้วทั้งพิลึกพิลั่นและน่าขนลุกขนพองอย่างบอกไม่ถูก

ดูจากทิศทางที่พวกมันเคลื่อนไหว เป้าหมายของพวกมันคือเฉินเฟิงอย่างแน่นอน

“ชี่ !” น้ำลายหนอนยักษ์พุ่งกระฉูดออกมา เฉินเฟิงขยับเท้าเบี่ยงหลบไปทางขวา แต่ก็โดนแขนซ้ายเข้านิดหน่อยอยู่ดี ผิวที่โดนมีควันจางๆ ลอยขึ้นมาทันที แถมยังมีกลิ่นดินประสิวอีกต่างหาก

เฉินเฟิงรีบสะบัดแขนซ้ายแรงๆ เพื่อให้ของเหลวนั้นหลุดไป ส่วนมือขวาชัก “ดาบสั้น” อาวุธหนึ่งเดียวที่มีออกมา แทงใส่ช่วงเอวของหนอนยักษ์ตัวที่อยู่ใกล้สุด

“ฉึก !” ดาบจมลงไปจนมิดด้าม เฉินเฟิงเพิ่งจะนึกดีใจว่าหนอนนี้ไม่ได้ร้ายกาจเท่าไร ที่ไหนได้ออกแรงดึงไปหลายที ดาบสั้นดันไม่ยอมหลุด

กองทัพหนอนยักษ์ล้อมใกล้เข้ามาทุกทีๆ ถึงจะทราบว่านี่คือโลกในเกม แต่ความรู้สึกเจ็บที่แขนซ้ายเมื่อกี้ก็เป็นจริงเอามากๆ ตัวเขาที่ไม่อยากถูกกัดจนพรุนจึงได้แต่ใช้สุดยอดกลยุทธ์ใน ๓๖ กลยุทธ์ คือโกยแนบ

ความสุขไม่มาซ้ำ ความทุกข์ไม่มาเดี่ยว แม้กองทัพหนอนยักษ์จะคืบคลานเข้ามาอย่างเชื่องช้า แต่จำนวนของมันมีมากเกินไป หลังจากพลาดโอกาสหนีในตอนแรก เฉินเฟิงก็ค้นพบความจริงอันเจ็บช้ำว่าตัวเองหมดทางหนีเสียแล้ว

เขาถอยหลังไปทีละก้าวๆ กองทัพหนอนก็บีบวงล้อมแคบเข้าๆ อย่างไม่มีการเกรงอกเกรงใจ และแล้วเฉินเฟิงก็มองเห็นหนทางรอดอย่างกะทันหัน !

เขาเล็งต้นสนทางขวามือเขม็ง แล้วรวบรวมกำลังกระโดดพรวดขึ้นไปเกาะลำต้น ไต่แผล็วๆ ขึ้นไปสูง ๗ ฟุตในพริบตา

แม้ข้างล่างจะเต็มไปด้วยหนอนเขียว แต่โชคดีที่หนอนอ้วนพวกนี้ปีนต้นไม้ไม่เป็น พลังแฝงของมนุษย์นี่ดูถูกไม่ได้จริงๆ พอเกิดอันตรายคุกคามชีวิต คนไม่เคยปีนต้นไม้มาก่อนอย่างเฉินเฟิงถึงกับปีนได้ไวไม่แพ้ลิงเลยทีเดียว

สองมือเฉินเฟิงกอดลำต้นไม้แน่น ปากร้องด่าอย่างสุดทน

“แม่งเอ๊ย ! พยัคฆ์ลงที่ราบถูกสุนัขรังแกจริงๆ เอ๊ย...ไม่ใช่สิ ถูกหนอนรังแกต่างหาก มีเกมบ้าอะไรที่ไหนมันออกแบบหนอนให้เก่งขนาดนี้บ้างหา ! นี่เรอะสัตว์อสูร (monster) ที่มีไว้ให้มือใหม่สู้ ? มิน่าล่ะเข้ามาตั้งนานสองนานถึงยังไม่เห็นคนมาใหม่สักคน”

ขณะนั้นเองเสียงราบเรียบเสียงหนึ่งได้ดังขึ้นในศีรษะ

“ระบบขอแจ้งให้ทราบ ผู้เล่นเฉินเฟิงปฏิบัติตามเงื่อนไข แสดงทักษะพื้นฐานของนักดาบลุล่วง ได้รับทักษะ ‘แทง’ ของนักดาบ ระดับที่ ๑ ผู้เล่นเฉินเฟิงปฏิบัติตามเงื่อนไข แสดงทักษะพื้นฐานของนักผจญภัยลุล่วง ได้รับทักษะ ‘ปีนไต่’ ของนักผจญภัย ระดับที่ ๑”

เสียงของระบบนั่นเอง ทักษะมันเรียนรู้กันแบบนี้นี่เอง แปลกใหม่ดีแฮะ แต่ถ้าเกิดตายขึ้นมา มันจะยังอยู่ไหมหว่า ?

แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาห่วงเรื่องทักษะ เพราะหลังจากฝืนเกาะอยู่บนต้นไม้ได้ ๕ นาที แขนของเฉินเฟิงก็ใกล้จะหมดแรง

แขนเปล่าๆ ต้องมาเกาะลำต้นแสนจะขรุขระของต้นสนแบบนี้ไม่สบายเลยสักนิด กิ่งสนส่วนใหญ่ทั้งเล็กและอยู่สูง เขาลองพยายามดูหลายครั้ง ก็ไม่สามารถปีนขึ้นไปอยู่กิ่งที่สูงกว่านี้ได้ ที่ซวยกว่านั้นคือ แขนเขาเริ่มจะสั่น ส่วนข้างล่างกองทัพหนอนก็มาออกันยั้วเยี้ยขึ้นทุกทีจนกลายเป็นสีเขียวพืดไปทั้งแถบ สุดจะนับไหวว่ามีทั้งหมดกี่ตัว เสียง “ชี่ชี่...” ดังไม่ขาดระยะมาพร้อมกับหยาดน้ำลายกระเซ็นซ่าน ทุกแห่งที่น้ำลายกระเซ็นไปโดน จะมีควันจางๆ ลอยขึ้นมาเป็นสาย และควันก็ลอยเอาๆ ไม่ได้หยุดจนเฉินเฟิงแทบจะสำลักกลิ่นดินประสิวตาย

น้ำมูกน้ำตาเฉินเฟิงไหลเต็มหน้า ดูท่าเขาคงหมดหวังแล้ว ขณะเตรียมจะปล่อยมือเพื่อจะได้ตายๆ ไปเสียให้พ้นทุกข์พ้นร้อน สวรรค์กลับยังไม่ยอมละเว้นเขา เพราะเหนือศีรษะได้ปรากฏแสงสีแดงเจิดจ้าสว่างวาบขึ้นกะทันหัน ครั้นแสงสว่างจางหาย งูยักษ์ที่ปากพ่นสารหนูสีแดงก็ปรากฏตัวขึ้น ส่งเสียงดัง “ฟ่อ ฟ่อ” นัยน์ตาเย็นชาทั้งคู่จ้องเฉินเฟิงเขม็ง

เสียงจากระบบดังขึ้นกลางอากาศ

“ระบบขอแจ้งให้ทราบ ‘พฤกษ์ไพธอนสารหนูแดง’ (Tree python red arsenic) สัตว์อสูรระดับราชา (Boss) ถือกำเนิด ระดับ ๖๑ ธาตุความมืด ผู้ที่ถูกสัตว์อสูรระดับราชาสังหาร เวลาที่ใช้ในการรอเกิดใหม่ต้องเพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็น ๔ ชั่วโมง”

เฉินเฟิงฟังแล้วได้แต่เบิ่งตาค้าง ไม่เข้าใจเลยว่าวันนี้มันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ ? อะไรจะบังเอิญขนาดนี้ !

ปกติผู้เล่นต้องคอยเฝ้าตั้งหลายวันกว่าสัตว์อสูรระดับราชาจะปรากฏตัว และเมื่อสัตว์อสูรระดับราชาปรากฏตัว บรรดาผู้เล่นก็จะเฮโลกันเข้าไปรุมจนสัตว์อสูรระดับราชาตัวนั้นกลับบ้านเก่าภายในเวลาไม่กี่วินาที

ธรรมดาเวลาอยู่ในเกมอื่น เฉินเฟิงก็ตามชาวบ้านไปรอสัตว์อสูรระดับราชาเหมือนกัน เพียงแต่เขามีความอดทนต่ำ จึงไม่เคยอยู่รอจนพบเลยสักครั้ง มาวันนี้เพิ่งจะเข้าเล่นเกมนี้เป็นครั้งแรก ก็ได้พบสัตว์อสูรระดับราชาเลย แต่สวรรค์ก็ช่างเล่นตลกเสียจริง เพราะเขาเพิ่งจะอยู่ระดับ ๑ เท่านั้น !

จากเดิมที่คิดจะปล่อยมือ เขาก็เปลี่ยนใจเป็นรอดูฤทธิ์เดชของสัตว์อสูรระดับราชาตัวนี้ ไหนๆ ก็ต้องตายอยู่แล้ว ดูเสียหน่อยยังไงก็ไม่ขาดทุน

ที่ประหลาดคือรอบข้างไม่มีผู้เล่นปรากฏให้เห็นแม้แต่คนเดียว !

“ที่นี่คือเขตมือใหม่จริงหรือเปล่าเนี่ย ?” เฉินเฟิงคิดเรื่อยเปื่อย

พฤกษ์ไพธอนสารหนูแดงนิ่งมองเฉินเฟิงอยู่หลายสิบวินาที เห็นเฉินเฟิงไม่ยอมขยับ จึงสะบัดลำตัวยาวเหยียด ตบรางวัลให้เฉินเฟิงไปหนึ่งเปรี้ยงด้วยปลายหาง

หางงูยังไม่ทันถึงตัว เฉินเฟิงก็ตกใจจนเผลอปล่อยมือ น่าเสียดายที่ความเร็วในการร่วงตกยังช้ากว่างูสะบัดหาง

“อ๊าาาาาาาาา !”

หลังเสียงร้องโหยหวนสูงลิบทะลุเพดานห้องเสียง ร่างของเฉินเฟิงก็ลอยละลิ่ววาดเป็นเส้นโค้งอย่างงดงาม พุ่งออกห่างจากต้นสนกว่า ๒๐ เมตร ลอยข้ามกองทัพหนอนที่ล้อมเขาเอาไว้พอดี

เสียง “พลั่ก !” “พลั่ก !” ดังติดต่อกันสองเสียง เฉินเฟิงหน้าคว่ำหัวคะมำ เลือดทะลักออกทางทวารทั้งเจ็ด เจ็บปวดแสนสาหัสจนอยากจะตายๆ ไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด

เสียงระบบดังขึ้นในศีรษะอีกครั้ง

“ระบบขอแจ้งให้ทราบ ผู้เล่นเฉินเฟิงปฏิบัติตามเงื่อนไข แสดงทักษะพื้นฐานของนักรบเทพ (Saint) ลุล่วง ได้รับทักษะ ‘เลือดฐาน’ ของนักรบเทพ ระดับที่ ๑”

แบบนี้ก็ได้ด้วย ?

เลือดฐาน หมายความตามชื่อ นั่นคือแม้จะถูกโจมตีด้วยพลังโจมตีที่เหนือกว่าพลังป้องกันสูงสุดของตัวเอง ก็จะไม่ตายในทันที แต่จะยังเหลือพลังชีวิตที่ต่ำที่สุดเอาไว้ ในเวลาแบบนั้นหากพกยาฟื้นพลังมามากพอ จะเท่ากับได้ชีวิตเพิ่มอีกหลายชีวิต

ขณะที่เฉินเฟิงกำลังทรมานจนคิดอยากตายไปให้รู้แล้วรู้รอดนั่นเอง เสียง “พลั่ก !” เสียงที่สองเมื่อครู่ เกิดจากหลังจากที่พฤกษ์ไพธอนฯดีดเฉินเฟิงกระเด็นหวือแล้ว แรงเหวี่ยงที่เหลือได้ส่งท่อนหางไปกระแทกถูกลำต้นสน ส่งผลให้ลำต้นสนที่เฉินเฟิงเกาะอยู่เมื่อครู่หักเปาะทันที พฤกษ์ไพธอนสารหนูแดงได้ร่วงตกลงไปพร้อมกับลำต้นไม้ที่หัก แล้วทับใส่กองทัพหนอนยักษ์พอดิบพอดี

เสียง “ตูม ตูม !” ดังสนั่นสะเทือนติดต่อกัน เฉินเฟิงรีบเงยหน้าขึ้นดู ก็พบว่าหนอนยักษ์สีเขียวระเบิดตูมติดต่อกันตัวแล้วตัวเล่าเหมือนจุดประทัดที่รอบๆ ตัวพฤกษ์ไพธอน

เสียงระเบิดดังสนั่นติดต่อกันราวๆ สามสิบกว่าวินาที ตบท้ายด้วยเสียงระเบิดกึกก้องกัมปนาทเป็นพิเศษ แล้วทุกอย่างก็คืนสู่ความสงบ

จากนั้นเสียงจากระบบก็ดังขึ้นยาวเหยียดในสมอง

“ผู้เล่นเฉินเฟิงสังหารหนอนเขียวเขี้ยวเหล็กไหล ระดับ ๒๑ ได้รับค่าประสบการณ์ ๖,๐๐๐ แต้ม...ผู้เล่นเฉินเฟิงสังหารหนอนเขียวเขี้ยวเหล็กไหล ระดับ ๒๑ ได้รับค่าประสบการณ์ ๖,๐๐๐ แต้ม...ผู้เล่นเฉินเฟิงสังหารพฤกษ์ไพธอนสารหนูแดง สัตว์อสูรระดับราชา ระดับ ๖๑ ได้รับค่าประสบการณ์ ๒๑๐,๐๐๐ แต้ม...ผู้เล่นเฉินเฟิงบรรลุเงื่อนไขในการเลื่อนระดับ เลื่อนเป็นระดับ ๒ , ระดับ ๓ , ระดับ ๔ ,...บรรลุเงื่อนไขในการเลื่อนระดับ เลื่อนเป็นระดับ ๓๐ บรรลุระดับสูงสุดของผู้เริ่มต้น ระดับ ๓๐ ค่าประสบการณ์ที่เหลือคือ ๔๐๒,๕๐๐ แต้ม”

เฉินเฟิงนอนพังพาบอยู่กับพื้นอย่างตกตะลึง เขาฆ่าสัตว์อสูรระดับราชาตาย ไม่ได้ฝันไปใช่ไหมนี่ ?

ครู่ใหญ่ให้หลังเขาค่อยได้สติ และเห็นว่าบริเวณที่เขาอยู่เมื่อครู่ก่อนถูกแรงระเบิดจนกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่ ในหลุมมีของกองระเกะระกะ แถมยังมีแสงสะท้อนแวบวับปนอยู่ด้วย เขาคลานขึ้นมาอย่างยากเย็น พยายามเดินเข้าไปดูใกล้ๆ แล้วต้องตกตะลึงตาค้าง

เหรียญกองหนึ่งส่องประกายอยู่ที่ก้นหลุม รอบด้านมีสิ่งของสารพัดอย่างกองใหญ่วางกระจัดกระจาย ตัวเขาที่ไม่ได้เพิ่งจะเคยเล่นเกมเป็นครั้งแรกทราบดีว่าสิ่งของพวกนี้ได้จากการระเบิดของบรรดาสัตว์อสูร และเป็นสิ่งที่ชาวเกมออนไลน์เรียกกันว่า “ให้ของ” (drop item)

เฉินเฟิงรีบไถลลงหลุมไปเก็บรางวัลจากชัยชนะของตัวเอง

เหรียญไม่ใช่แค่กองใหญ่ธรรมดาๆ หลังจากเก็บกวาดของอื่นๆ ที่อยู่รอบๆ แล้ว เฉินเฟิงพบว่ากองเหรียญทั้งหมดสูงถึงหนึ่งเมตรกว่า !

เฉินเฟิงดูกองเหรียญแล้วนึกกลุ้มใจ ตัวเขามีมือแค่สองข้าง แล้วจะขนเหรียญกองใหญ่ขนาดนี้ไปด้วยได้ยังไง ? เขาหยิบเหรียญเหรียญหนึ่งขึ้นมาดู

ทันใดนั้นเสียงแจ้งจากระบบได้ดังขึ้นในศีรษะว่า

“ผู้เล่นเฉินเฟิง ได้รับเหรียญทอง ๓๐๐ เหรียญ เหรียญเงิน ๑๑,๕๖๕ เหรียญ เนื่องจากผู้เล่นไม่มีถุงเก็บเงิน ระบบจึงขอโอนเข้าสู่ธนาคารโดยอัตโนมัติ พร้อมกับขอเก็บค่าธรรมเนียม ๑๐%

“เนื่องจากผู้เล่นยังไม่ได้เปิดบัญชี ระบบจึงขอหักค่าธรรมเนียมในการเปิดบัญชี ๑๐๐ เหรียญเงินโดยอัตโนมัติ การโอนเสร็จสิ้น ยอดคงเหลือในบัญชี เหรียญทอง ๒๗๐ เหรียญ เหรียญเงิน ๑๐,๓๐๙ เหรียญ”

เฉินเฟิงฟังการแจ้งของระบบจบก็โวยขึ้นทันที

“เฮ้ย ! หน้าเลือดเกินไปแล้ว ! จ่ายค่าธรรมเนียมครั้งละตั้ง ๑๐% แบบนี้จะต่างอะไรกับปล้นกันซึ่งๆ หน้าหา ?”

แต่ต่อให้เฉินเฟิงโวยวายยังไง ก็ไม่มีใครสนใจการประท้วงของเขา เขาจึงได้แต่เลิกโวย เพราะถึงยังไงวิธีนี้ก็ช่วยเขาแก้ปัญหาได้แล้ว

มาดูของชิ้นอื่น อย่างแรกคือเกราะหนังที่แยกส่วนกระจัดกระจาย ประกอบด้วยหมวก เสื้อ เสื้อกั๊ก รองเท้าบู้ท เกราะแขน เกราะข้อมือ เกราะเข่า สายรัดเอวหนัง เฉินเฟิงมีแค่สองมือ จึงได้แต่สวมทั้งหมดนั้นลงบนตัวไปเลย จากนั้นหยิบดาบที่เปล่งแสงสีแดงเรื่อเรืองขึ้นมา ตัวดาบยาวสี่ฟุตครึ่ง บนฝักดาบมีตรารูปพฤกษ์ไพธอนสารหนูแดง แถมยังสลักอักษรว่า “ดาบโกมุท”

หลังจากลองประมาณน้ำหนักและลองตวัดไปมาสองสามที ก็พบว่าเหมาะมือดี จึงมัดดาบไว้ที่สายรัดเอว

นอกจากนี้ยังมีหน้าไม้เหล็กกล้า ๑ คัน , ลูกดอก ๓ กระบอก , แหวน ๖ วง , สร้อย ๒ เส้น , เป้ (กระเป๋าสะพายหลัง) ๑ ใบ , โลหะประหลาดๆ ๒๖ ก้อน , ม้วนคาถา ๓๐ กว่าม้วน , ดาบสั้น ๑๒ เล่ม , อัญมณีหลากสี ๖๕ ก้อน

เมื่อได้เห็นเป้ เฉินเฟิงก็ดีใจอย่างมาก เพราะจากประสบการณ์ที่มี เป้ใบนี้จุได้มากกว่าขนาดที่เห็นภายนอกอย่างแน่นอน

เขาลองใส่ดาบสั้นเล่มหนึ่งเข้าไปในเป้ เป็นดังที่คาด หลังจากดาบสั้นเข้าไปในเป้ มันก็หดเล็กลงราวกับโดนเวทมนตร์จนเหลือขนาดประมาณหัวแม่มือ

ดูท่าเป้ใบนี้จะจุของได้ไม่น้อยเลยทีเดียว เขาจัดการยัดของทั้งหมดเข้าไปในเป้ ยกเว้นแหวนและสร้อยคอซึ่งแน่นอนว่าเขาเลือกที่จะสวมติดตัวไว้ เมื่อลองสะพายเป้ดูก็รู้สึกว่าไม่หนักนัก ประมาณสัก ๕ กิโลกรัมเท่านั้น !

เขาคลานออกจากหลุม เพิ่งหันหลังให้ หลุมก็หายวับไป ครั้นหันไปมองรอบด้าน ก็พบว่าได้กลับสู่สภาพเดิมเมื่อขามาเรียบร้อยแล้ว หากไม่ใช่เพราะสารพัดสิ่งของที่เขาสวมอยู่ ก็เหมือนกับแค่ฝันไปจริงๆ เพราะไม่เหลือร่องรอยอะไรเลยสักอย่าง

ถึงตอนนี้เฉินเฟิงแน่ใจแล้วว่าตัวเองต้องมาผิดทางแน่ๆ กระทั่งหนอนยังอยู่ตั้งระดับ ๒๑ ไม่มีเขตสำหรับมือใหม่ของเกมไหนเขาออกแบบอย่างนี้กันหรอก !

หลังผ่านเคราะห์ร้ายย่อมพบโชคดี...ถึงจะตายในเกมก็ไม่เป็นไร แต่หากไม่ตายย่อมจะมีโชคดีรออยู่

ได้ของมาเต็มตัวแบบนี้ อารมณ์หงุดหงิดที่เคยมีก็บินหายไปจนหมด ได้ยินว่าเงินในเกมสามารถขายให้แก่ผู้เล่นผ่านทางธนาคารได้ อัตราแลกเปลี่ยนในตอนนี้คือ ๑๐๐ เหรียญเงินต่อเงินในโลกความจริง ๑ เหรียญ แถมได้ยินมาว่าแย่งกันซื้อน่าดู เพราะเกมนี้ขึ้นชื่อมากว่าหาเงินยากสุดๆ

ลองคำนวณจากเงินกองเมื่อกี้ ๑ เหรียญทองแลกได้ ๑๐๐ เหรียญเงิน เท่ากับว่าทั้งหมดนั้นสามารถแลกเป็นเงินจริงได้เกือบ ๔๐๐ เหรียญ ไม่แค่ถอนทุนที่เขาจ่ายไป ๑๕๐ เหรียญกลับมาได้ แถมยังกำไรอีกนิดหน่อย นี่ยังไม่นับพวกของที่ได้มาอีกต่างหาก สัตว์อสูรระดับราชามักให้ของชั้นเลิศ ขอแค่ได้มาสักชิ้นก็เปรมแล้ว

เฉินเฟิงตัดสินใจจะย้อนกลับไปยังเมืองที่เห็นเมื่อตอนเริ่มต้น ไม่ว่ายังไงก็ต้องหาเมนูเกมให้ได้ก่อน เผื่อตัวเองเกิดอดตายขึ้นมา ของมีหวังหายหมด เมื่อนั้นแหละเกมนี้จะกลายเป็นแค่ฝันไปจริงๆ

เขาเดินย้อนกลับไปตามเส้นทางเมื่อขามา เดินไปพลางฮัมเพลงไปพลางอย่างอารมณ์ดี ดูท่ามนตราของเงินจะมีเสน่ห์ดึงดูดใจมนุษย์ไม่ใช่น้อย

เขาเดินไปพลางคิดไปพลาง ค่าประสบการณ์ที่สัตว์อสูรพวกนั้นให้มาเมื่อครู่ดูเหมือนจะสูงเกินไป ถึงแม้ปกติหากปราบสัตว์อสูรระดับสูงกว่าได้ จะได้ค่าประสบการณ์ค่อนข้างมากก็เถอะ แต่รวดเดียวเลื่อนเป็นระดับ ๓๐ ก็เกินไปหน่อย หรือเกมนี้ผู้เล่นส่วนใหญ่จะมีระดับหลายร้อยกัน ?

แล้วก็เงินในเกมนี้ไม่เห็นจะหายากอย่างที่ใบบอร์ดว่ากันเลย ได้แต่โทษตัวเขาเองที่ไม่ยอมอ่านให้ละเอียด แค่รู้สึกว่าเกมนี้พอใช้ได้ และตัวเองกำลังว่างอยู่ ก็ตัดสินใจเข้ามาเล่นซะอย่างนั้น

คราวนี้เห็นทีต้องยอมเสียเวลาศึกษากันหน่อย ไม่แน่ว่าเขาอาจได้อาศัยเกมนี้หาเลี้ยงปากท้อง ลองเป็นนักเล่นเกมอาชีพที่กำลังฮิตกันอยู่ดูสักที

เฉินเฟิงพกความสงสัยเต็มศีรษะกลับไปที่ทางเข้าเมือง แล้วนึกขึ้นได้รางๆ ว่าดูเหมือนระบบจะเคยบอกว่าหลังจากเข้าไปในเมืองแล้ว ให้เลี้ยวขวา ก็จะไปถึงอาคารเริ่มต้น ตอนนั้นเขามัวแต่คิดอยากออกจากเกมเร็วๆ จึงไม่ได้ตั้งใจฟังนัก คิดไม่ถึงว่าจะโผล่ไปในที่ที่ไม่ควรไปเสียได้ โชคดีที่สุดท้ายเรื่องมันกลับจากร้ายกลายเป็นดี

ทันทีที่ก้าวเข้าประตูเมือง ก็เห็นชายหญิง ๗ - ๘ คนซึ่งส่วนใหญ่สวมชุดแรกเริ่มที่เป็นเสื้อผ้าทำจากผ้าธรรมดากำลังล้อมดูกระดานประกาศพลางวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่

การปรากฏตัวของเฉินเฟิงสะดุดตาทุกคนในทันที สายตาที่มองมาบอกความอิจฉาริษยาอย่างไม่ปิดบัง ชั่วขณะนั้นเฉินเฟิงภูมิใจจนแทบจะลอยได้

 

(หมายเหตุ : ผู้เขียนได้อธิบายไว้ว่า ที่เฉินเฟิงได้รับค่าประสบการณ์จากหนอนเขียวเขี้ยวเหล็กไหลนั้น เป็นเพราะหนอนเขียวฯ ตัวแรกที่พฤกษ์ไพธอนฯ ตกลงมาทับตาย เป็นหนอนเขียวที่ถูกเฉินเฟิงแทงดาบสั้นใส่และยังมีดาบสั้นปักคาอยู่ ตำแหน่งที่พฤกษ์ไพธอนฯ ตกลงมาทับหนอนตัวนั้นก็เป็นตำแหน่งที่มีด้ามดาบโผล่อยู่พอดี หนอนตัวนั้นเป็นหนอนตัวแรกที่ตายและระเบิด แรงระเบิดของมันทำให้หนอนตัวอื่นๆ ที่อยู่รอบๆ ตายตามมันไปติดต่อกันเป็นลูกโซ่ แถมพฤกษ์ไพธอนฯ เองก็ถูกแรงระเบิดจากหนอนเขียวฯ ที่ระเบิดตายทั้งหมด 50 ตัวเล่นงานจนตายตามไปเป็นตัวสุดท้าย ค่าประสบการณ์ทั้งหมดจึงตกเป็นของเฉินเฟิงเพราะดาบสั้นเล่มนั้นนั่นเอง - ผู้แปล)



[1]NPC ย่อมาจาก Non-player character หมายถึงตัวละครซึ่งเป็นเสมือนพนักงานในเกม ถูกสร้างขึ้นโดยโปรแกรม ดังนั้นจึงมีคำพูดและรูปแบบการเคลื่อนไหวที่จำกัดตามโปรแกรมที่ถูกตั้งมาคล้ายหุ่นยนต์

[2] ออนไลน์ (on line) ต่อสัญญาณเข้าสู่ระบบอินเตอร์เน็ต


แก้ไขเมื่อ 2 ก.พ. 2555, 20:34 โดย

หลินโหม่ว เข้าร่วมเมื่อ 2 ก.พ. 2555, 20:17

0 ความคิดเห็น