หัวข้อ : องก์ที่ 1 มอบแด่คุณ ผู้ที่ฉันรักอย่างลึกล้ำ (4)

โพสต์เมื่อ 28 ก.ย. 2560, 15:20

องก์ที่ 1
มอบแด่คุณ ผู้ที่ฉันรักอย่างลึกล้ำ (4)

 

กว่าเนี่ยเฟยเฟยจะได้พบเนี่ยอี้อีกครั้ง ก็เป็นช่วงค่ำของวันถัดมา ในงานเลี้ยงดื่มเหล้ากลางแจ้ง เนี่ยเฟยเฟยกับฉุนอวี๋เหวยเข้าไปในงานเลี้ยงนี้ปุบ เนี่ยเฟยเฟยก็เห็นเนี่ยอี้ทันที เขากำลังยืนคุยกับฝรั่งสูงวัยคนหนึ่ง

เนี่ยเฟยเฟยไม่ได้เข้าไปทักเขา เธอหยิบเหล้าจากบริกรมายืนดื่มพลางมองสำรวจคนในงานเงียบๆ เป้าสายตาของเธอคือฝรั่งวัยกลางคนสองคน หนึ่งในสองคือคนที่นัดเดตกับเจี่ยนซีเมื่อวานนี้ (ขอเรียกหมอนี่เป็นฝรั่งเบอร์ 1 อีกคนเป็นฝรั่งเบอร์ 2)

จากที่ฟังฝรั่งสองคนนี้คุยกัน เนี่ยเฟยเฟยจับใจความได้ว่า ก่อนหน้านี้ฝรั่งที่นัดเดตกับเจี่ยนซีเคยควงแฟนมาในงาน แล้วแฟนเขาเปลี่ยนใจไปชอบเนี่ยอี้ เลยบอกเลิกเขาหันไปจีบเนี่ยอี้แทน ฝรั่งเบอร์ 2 บอกว่า ไม่ว่านายจะยอมรับหรือไม่ก็ตาม ไอ้หนูจอมผยองนี่มันก็เสน่ห์แรงมากจริงๆ ผู้หญิงในนี้ครึ่งหนึ่งเคยทอดสะพานให้เขามาแล้วทั้งนั้น

ฝรั่งเบอร์ 1 ยักไหล่ “แต่สุดท้ายพวกเธอก็ไปแต่งงานกับคนอื่นหมด” แล้วหันไปมองเนี่ยอี้ “หมอนั่นคุยอะไรกับไอ้สัตว์ประหลาดเฒ่าเคนต์อีกล่ะ? พูดถึงเคนต์ ชาตินี้ผมไม่เคยเห็นใครน่ารังเกียจมากเท่าเขาเลย เวลาคุณคุยกับเขา เขาจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนกับว่าไอคิวของคุณไม่คู่ควรจะมาคุยกับเขาไงงั้น”

ฝรั่งเบอร์ 2 “อย่าไปสนใจตาเคนต์เฒ่านั่นเลย ไม่ว่ายังไงนายก็ได้คู่ควงของ Yee มาแล้ว มากพอจะทำให้หมอนั่นเสียหน้าป่นปี้ในงานเลี้ยงคืนนี้แล้วล่ะ ฉันน่ะถึงกับนึกกังวลแทนหมอนั่นเลยนะว่าเขาจะสะเทือนใจหนักเกินไปจนถึงขั้นพรีเซนส์รายงานในวันมะรืนนี้ตามปกติไม่ได้ไปเลยหรือเปล่า ไม่ว่ายังไงรายงานของเขาก็คู่ควรจะลองฟังดูทุกปีอยู่ดี”

ฝรั่งเบอร์ 1 ยิ้ม “นายพูดถูก”

จังหวะนี้เจี่ยนซีได้เดินเข้ามาหาฝรั่งเบอร์ 1 พอดี สองฝรั่งจึงยุติการสนทนา ฝรั่งเบอร์ 1 ควงเจี่ยนซีเดินตรงไปหาเนี่ยอี้เพื่อทักทาย และเพื่อจะเยาะเย้ยด้วยกลายๆ

เนี่ยเฟยเฟยหันไปถามฉุนอวี๋เหวยว่าวันนี้เธอดูเป็นยังไงบ้าง? ฉุนอวี๋เหวยตอบงงๆ ว่าคุณดูเพอร์เฟคต์มาก เนี่ยเฟยเฟยพยักหน้า เดินไปหยิบม็อกเทลจากบริกร แล้วเดินตรงเข้าไปหาเนี่ยอี้ด้วย

ฝรั่งเบอร์ 1 กำลังคุยกับเนี่ยอี้ เจี่ยนซีมีสีหน้ากระอักกระอ่วน ส่วนหน้าอี้มีสีหน้ารำคาญ และสายตาของคนในงานเลี้ยงครึ่งหนึ่งพากันมองมาที่พวกเขา

เนี่ยเฟยเฟยได้ยินเสียงคนแขกใกล้ๆ ตัวพูดว่า “Benny ไม่น่าแย่งแฟน Yee แล้วยังควงไปอวดต่อหน้า Yee อีกเลย Yee น่าสงสารจัง”

อารมณ์เนี่ยเฟยเฟยตอนนั้นคือเดือดมาก เมื่อเดินเข้าไปใกล้เนี่ยอี้มากพอ ก็ได้ยินฝรั่งเบอร์ 1 พูดว่า “แน่นอน Yee รสนิยมของคุณไร้ที่ติเสมอมา แต่จะเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับโลกของวิทยาศาสตร์ทั้งวันไม่ได้หรอกนะ ไม่อย่างนั้นเหล่าหวานใจทั้งหลายของคุณ...”

เนี่ยอี้มองเห็นเนี่ยเฟยเฟยแล้ว เขาชะงักเล็กน้อย จังหวะที่เนี่ยเฟยเฟยมองเห็นสายตาของเขา ก็เหมือนมีน้ำฝนเย็นฉ่ำพรมลงมาดับไฟโมโหของเธอลงจนสนิท เธอยิ้มออกมาได้อย่างจริงใจ เดินเข้าไปเปลี่ยนแก้วในมือตัวเองกับแก้วในมือเขาอย่างสนิทสนม แล้วควงแขนเขาเงยหน้าขึ้นมองเขา พูดว่า “ที่รักคะ  บอกคุณแล้วไม่ใช่หรือว่าห้ามดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์น่ะ”

เนี่ยอี้มองหน้าเธอสองวินาที พูดว่า “แค่แชมเปญดีกรีต่ำเอง”

เนี่ยเฟยเฟยยิ้ม ตอบเขาว่า “แชมเปญก็ไม่ได้ค่ะ”

ทุกคนในงานที่อยู่รอบด้านพากันถ่างหูแอบฟังเต็มที่ ส่วนฝรั่งเบอร์ 1 ดูจะนึกออกว่าตอนตัวเองคุยกับฝรั่งเบอร์ 2 คนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ก็คือเนี่ยเฟยเฟย จึงหน้าแดงก่ำ

ภรรยาเจ้าของเกาะซึ่งเป็นแม่งานเห็นสถานการณ์นี้ ก็รีบเข้ามาทักทายคุยกับเนี่ยอี้และเนี่ยเฟยเฟยเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ และทักว่า มิน่าเล่าครั้งนี้ Yee ถึงได้มาเร็วกว่าปกติตั้งหลายวัน ทั้งที่ทุกปีกว่าจะมาถึงก็เป็นวันที่ถึงคิวตัวเองพรีเซนส์รายงานเลย เพราะอยากจะมาเยี่ยมแฟนสาวนี่เอง

เนี่ยอี้ยิ้ม ส่วนเนี่ยเฟยเฟยอ้าปากค้าง เนี่ยอี้พูดว่า “ขอบคุณที่พวกคุณช่วยดูแลเฟยเฟยตอนอยู่ที่นี่ให้ครับ”

ระหว่างที่สามคนทักทายกัน นายฝรั่งเบอร์ 1 ก็หายไปไหนแล้วไม่รู้ ส่วนแขกคนอื่นก็เริ่มหมดความสนใจ หันไปมองอย่างอื่น ทำให้เนี่ยเฟยเฟยค่อยโล่งอก

เนี่ยอี้ดื่มม็อกเทลที่เนี่ยเฟยเฟยเอามาให้ ถามเธอว่า “ทำไมคุณถึงเดินมานี่ล่ะ?”

เนี่ยเฟยเฟยดื่มแชมเปญของเขาเหมือนกัน “คุณรู้หรือเปล่าว่าพวกเขาพูดกันว่ายังไง? เขาพูดกันว่า Yee ถูกแย่งแฟนไปน่าสงสารจัง”

เนี่ยอี้ “คำพูดไร้สาระพวกนั้นไม่ต้องไปสนใจหรอก”

เนี่ยเฟยเฟยมองหน้าเขาอย่างจริงจัง “ไม่ เนี่ยอี้ คนที่อยากรู้อยากเห็นพวกนั้น พวกเขาอิจฉาคุณได้ และริษยาคุณได้ แต่ห้ามสงสารคุณ และห้ามหัวเราะเยาะคุณ”

เนี่ยอี้ “เพราะอะไร?”

เนี่ยเฟยเฟยคิดในใจ แน่ละว่าเป็นเพราะคนของฉัน พวกนั้นอย่าได้คิดจะมาแตะต้องแม้แต่ปลายนิ้วเชียว แต่จำเป็นต้องตอบว่า “เราสองคนเคยถูกมองว่าเป็นคู่กันมาก่อน พวกเขาว่าคุณแบบนั้น เท่ากับกำลังว่าฉันด้วย”

ครู่ใหญ่ เนี่ยอี้พูดว่า “เฟยเฟย เราออกไปเดินเล่นกันเถอะ”

 

ทั้งสองเดินเคียงกันไปตามแนวหาดทราย จนไกลจากงานเลี้ยงออกไปมากขึ้นเรื่อยๆ จนได้อยู่กันตามลำพัง สามารถคุยกันได้โดยไม่มีใครได้ยิน

เนี่ยเฟยเฟยพูดขึ้นยิ้มๆ “นี่มันโชคชะตาแบบไหนนี่ ทำไมถึงมาเจอกันที่นี่ได้”

เนี่ยอี้ “ผมรู้แต่แรกแล้วว่าคุณอยู่ที่นี่”

เนี่ยเฟยเฟยประหลาดใจ “คุณรู้หรือ?”

เนี่ยอี้ “นิตยสารเซินหลาน-เว่ยหลานฉบับก่อนลงรูปที่คุณถ่ายที่นี่สองรูป”

เนี่ยเฟยเฟย “ดังนั้นกำไลขอนนั้นคือคุณจงใจเอาจากในประเทศมาให้ฉันน่ะสิ? ทำไมอยู่ดีๆ ถึงอยากจะให้กำไลฉันขึ้นมาล่ะคะ?”

เนี่ยอี้ “นั่นคุณย่าให้คุณน่ะ วันที่ 17 เป็นวันเกิดคุณ เป็นของขวัญวันเกิดที่ท่านให้คุณ”

เนี่ยเฟยเฟยประหลาดใจ “คุณย่าเพิ่งจะผ่าตัดเสร็จไม่นาน ยังอยู่ระหว่างพักฟื้นไม่ใช่หรือคะ?

เนี่ยอี้ “คุณป้าบอกเรื่องของคุณย่าให้คุณทราบด้วยหรือ?”

เนี่ยเฟยเฟย “ไม่ใช่ว่าแม่ฉันเป็นคนบอกเองหรอกค่ะ หลังจากถอนตัวจากคุณ ฉันก็นึกถึงคุณย่าคุณขึ้นมาได้ว่าท่านยอมเข้าผ่าตัดเพราะฉันกับคุณคบกัน ฉันมาถอนตัวไปแบบนี้ กลัวว่าท่านจะไม่ยอมเข้าผ่าตัดอีก ฉันเลยลองถามคุณแม่ดูว่าท่านเป็นยังไงบ้างน่ะค่ะ”

เนี่ยอี้นิ่งไปสามวินาที “ด้านคุณป้า ผมต้องเรียกคะแนนกลับมายังไง ยังเป็นปัญหาอยู่จริงๆ”

เนี่ยเฟยเฟย “พยายามอย่าไปเจอหน้าท่านก็พอค่ะ ยังไงหลังจากนี้คุณกับคุณแม่ฉันก็ไม่ค่อยมีโอกาสได้เจอกันอยู่แล้ว”

เนี่ยอี้ไม่แสดงความเห็น เปลี่ยนเรื่องว่า “อยากรู้เรื่องคุณย่า ทำไมถึงไม่โทรมาถามผมโดยตรงล่ะ? คุณมีเบอร์ของผมนี่”

เนี่ยเฟยเฟยไม่มีหน้าจะบอกเขาว่าเธอทำมือถือหาย รวมทั้งเบอร์ของเขาที่อยู่ในมือถือด้วย เลยเมคข้ออ้างขึ้นสดๆ ว่า “ไม่ได้หรอกค่ะ ตามฟอร์มของละครน้ำเน่าหลังข่าวภาคค่ำ คุณจะเข้าใจผิดได้ว่าฉันยังตัดใจจากคุณไม่ได้ เลยหาข้ออ้างโทรไปหาคุณทำเป็นว่าถามถึงคุณย่าคุณ แต่ความจริงคือแค่อยากจะได้ยินเสียงของคุณเท่านั้น จะให้เกิดเรื่องเข้าใจผิดแบบนี้ไม่ได้หรอกค่ะ”

เนี่ยอี้มองหน้าเธอ “ยังตัดใจไม่ได้? ถ้าจะเข้าใจผิดว่ายังตัดใจไม่ได้ละก็ ผมคงจะเข้าใจผิดว่าคุณยังตัดใจจากเครื่องช่วยดำน้ำไม่ได้มากกว่า”

เนี่ยเฟยเฟยพูดทีเล่นทีจริง “เอ๋? ไม่มั่นใจในตัวเองขนาดนี้เชียว? ก็จริงอยู่ล่ะนะ ตั้งแพงออกนี่”

เนี่ยอี้หยุดเดิน มองหน้าเนี่ยเฟยเฟยอยู่พักหนึ่ง ดวงตาทอแววล้อเลียน ยื่นมือออกไป “เอามือถือมา”

เนี่ยเฟยเฟย “คะ?” ส่งมือถือไปให้เขางงๆ

เนี่ยอี้เปิดหน้าจอ แล้วเม็มเบอร์ตัวเองลงในมือถือไปพลางพูดไปพลางว่า “ต่อไปจำไว้ด้วยละว่าต้องก็อปปี้ข้อมูลสำรองในมือถือเก็บไว้ แบบนี้ถึงจะทำมือถือหาย เบอร์โทรสำคัญจะได้ไม่หายไปด้วย ถ้าทำไม่เป็น ก็ให้ผู้ช่วยของคุณช่วยก็อปให้”

เนี่ยเฟยเฟยตกตะลึง

เนี่ยอี้คืนมือถือให้เธอ “ข้ออ้างยังตัดใจไม่ได้เมื่อกี้นี้แต่งขึ้นสดๆ หรือ? แต่งได้ไม่เลวนี่”

เนี่ยเฟยเฟย “...เนี่ยอี้ คุณรู้ว่าฉันทำมือถือหายแล้วยังจะให้ฉันโทรหาคุณอีกนะ คุณ...เดี๋ยวก่อน เรื่องที่ฉันทำมือถือหาย คุณรู้ได้ยังไงน่ะ?”

เนี่ยอี้ “เมื่อคืนนี้ผู้ช่วยของคุณบอกผม”

เนี่ยเฟยเฟยพูดเสียงแค้นๆ “กลับไปฉันจะไล่เธอออก”

เนี่ยอี้ “ด้านผมกำลังขาดผู้ช่วยอยู่หนึ่งคนพอดีเลย”

เนี่ยเฟยเฟย “คนในแผนกเลขาของคุณมีเยอะมากพอแล้ว จ้างผู้ช่วยเยอะขนาดนั้นคุณไม่เปลืองรึไง? ไม่รู้จักเอาอย่างฉันซะบ้าง รวมแล้วมีเลขาช่วยดูแลชีวิตประจำวันแค่คนเดียว ประหยัดดีออก”

เนี่ยอี้ทำหน้าเข้าใจ “ดังนั้นคุณถึงได้ทำมือถือหายเป็นประจำ?”

เนี่ยเฟยเฟยแกล้งโมโห “เลิกซ้ำเติมฉันได้แล้ว” ปากกลับโค้งขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่ แค่ได้เห็นเนี่ยอี้ เธอก็อดอารมณ์ดีไม่ได้

ข้างหน้ามีเก้าอี้ชายหาดวางชิดกันอยู่สองตัว เนี่ยอี้จึงชวนไปนั่งด้วยกัน

เนื่องจากบรรยากาศสบายชวนง่วงมาก เนี่ยเฟยเฟยจึงเผลอหลับไป ตื่นมาอีกที เนี่ยอี้หายไปแล้ว รอบตัวเธอมีแต่ความมืด เนี่ยเฟยเฟยที่กลัวบรรยากาศแบบนี้เริ่มเหงื่อแตกพลั่กกลัวจับใจ จังหวะนี้ เสียงเนี่ยอี้ก็ดังขึ้นจากเหนือศีรษะพอดี

“ตื่นแล้วหรือ?”

เนี่ยเฟยเฟยผ่อนลมหายใจอยู่พักใหญ่ ถามเขาว่า “คุณไปไหนมาหรือ? ฉันนอนไปนานแค่ไหน?”

เนี่ยอี้ยื่นน้ำโซดาขวดหนึ่งให้ “ไม่นานเท่าไหร่ ประมาณครึ่งชั่วโมง ผมไปเอาอะไรมาดื่มหน่อยน่ะ”

เนี่ยเฟยเฟยรับขวดโซดามา มือสั่นนิดๆ เนี่ยอี้มองดูอย่างเพ่งพิศ แล้วถามว่า “เป็นอะไรไปหรือ?”

เนี่ยเฟยเฟยดื่มน้ำกลบเกลื่อน “ไม่มีอะไรนี่คะ”

เนี่ยอี้ยื่นมือไปอังหน้าผากเธอ “มีแต่เหงื่อทั้งนั้น”

เนี่ยเฟยเฟย “เมื่อกี้นอนหลับแล้วฝันร้ายน่ะ”

เนี่ยอี้นั่งลงบนเก้าอี้ชายหาดข้างๆ “ฝันร้ายว่าอะไรหรือ ถึงตกใจซะขนาดนี้?”

เนี่ยเฟยเฟย “จำไม่ได้แล้วค่ะ ยังไงก็คือน่ากลัวมากนั่นแหละ” จากนั้นก็เริ่มพล่ามถึงหนังที่เคยดูมาเรื่องนั้นเรื่องนี้ จนเนี่ยอี้ต้องกุมมือเธอไว้ เนี่ยเฟยเฟยมองหน้าเขาอย่างประหลาดใจ

เนี่ยอี้ “ยังกลัวอยู่อีกหรือ?”

เนี่ยเฟยเฟยตะลึง ปากแข็งว่า “เปล่าค่ะ”

เนี่ยอี้ “เวลาคุณตื่นเต้นกังวล จะทำกิริยาเดิมซ้ำๆ เวลากลัวจะเปลี่ยนเป็นพูดมาก”

เนี่ยเฟยเฟยประหลาดใจหนักกว่าเดิม “...คุณรู้ได้ยังไง?”

เนี่ยอี้ “ตอนไปทานข้าวกันที่...ครั้งนั้น ได้ยินคุณป้าพูดถึง”

เนี่ยเฟยเฟยระวังตัวขึ้นมาทันที “คุณแม่ฉันยังบอกคุณเรื่องฉันว่ายังไงอีกบ้างคะ?”

เนี่ยอี้ “ตอนยังเด็ก...”

เนี่ยเฟยเฟยรีบพูดว่า “ตอนยังเด็กฉันไม่เคยชกต่อยกับใครเพราะเด็กผู้ชายหน้าสวยนะ”

เนี่ยอี้มองหน้าเธอ เนี่ยเฟยเฟยมองหน้าเขากลับอย่างใจตุ๋มๆ ต้อมๆ “ฉันไม่เคยซื้อดอกกุหลาบให้พวกเขาด้วย”

เนี่ยอี้ “ไม่ได้แอบขโมยเงินไปซื้อดอกกุหลาบให้พวกเขาจริงๆ น่ะ?”

เนี่ยเฟยเฟย “จริงค่ะ”

เนี่ยอี้ “คุณป้าไม่ได้บอกแบบนี้หรอกนะ”

เนี่ยเฟยเฟยแข็งใจพูดว่า “ก็...ก็ได้ เคยให้ดอกกุหลาบ แต่ไม่ได้แอบขโมยเงินจริงๆ ใช้...ใช้เงินตรุษจีนของฉันทั้งหมด”

เนี่ยอี้ “อ้อ เงินตรุษจีน”

เนี่ยเฟยเฟยพูดเรี่ยๆ “ตอนนั้นยังเด็กเลยยังไม่รู้เรื่องน่ะค่ะ” แล้วชักโมโห “แม่ฉันนี่เน้นขายลูกสาวโดยเฉพาะมายี่สิบปีเลยนะ เล่าเรื่องแบบนี้ให้คุณฟังได้ยังไงกันเนี่ย?”

เนี่ยอี้ตอบว่า “คุณป้าไม่ได้บอกเรื่องพวกนี้กับผมหรอก คุณแหละเป็นคนบอกผมเองทั้งนั้น”

เนี่ยเฟยเฟย “ไม่ใช่สิ ก็เมื่อกี้คุณบอกว่า...”

เนี่ยอี้พูดตามตรง “ผมพูดว่าคุณป้าไม่ได้บอกแบบนี้หรอกนะ ซึ่งคุณป้าก็ไม่ได้บอกผมแบบนี้จริงๆ ท่านบอกว่าตอนคุณยังเล็กทั้งเชื่อฟังและว่านอนสอนง่าย”

เนี่ยเฟยเฟยตะลึงจังงังไปพักหนึ่ง ค่อยเก็ตว่า “เนี่ยอี้ นี่คุณแกล้งที่วันนี้ไอคิวของฉันไม่ได้ออนไลน์สินะ!”

เนี่ยอี้ยิ้ม “ก็งั้นสิ” เขาเบือนหน้ามา รอยยิ้มไม่ได้ชัดเจน แค่ปรากฏบางๆ บนริมฝีปาก แต่ทั่วทั้งใบหน้าดูอ่อนโยนอย่างชัดเจน ทำให้ระยะห่างหดสั้นลงมากอย่างประหลาด

เนี่ยเฟยเฟยย้อนนึกดู ก็พลอยนึกขำไปด้วย ถอนหายใจพูดว่า “ไม่ใช่เด็กประถมสักหน่อย จะมาเถียงกันเรื่องนี้ไปทำไมเนี่ย เสียดายบรรยากาศแย่ เราควรจะดูดาวไปพลางร่ายกลอนหรือพูดถึงปรัชญาชีวิตกันไปพลางสิถึงจะถูก เปลี่ยนช่องกันดีกว่า”

เนี่ยอี้ “ผมไม่ถนัดเรื่องกลอนกับปรัชญาชีวิต”

เนี่ยเฟยเฟย “ทำไงดี งั้นก็เหลือแต่ตัวเลือกดูดาวแล้วล่ะ”

เนี่ยอี้ถามขึ้นกะทันหัน “ดูกลุ่มดาวเป็นไหม?”

เนี่ยเฟยเฟย “คุณดูเป็นหรือคะ? ดาวเยอะขนาดนี้ มั่วเกินไป ดูออกได้ยังไงหรือคะว่าดาวดวงไหนอยู่ในหมู่ดาวไหน?”

จากนั้นเนี่ยอี้ก็สอนเธอดูดาวแยกแยะกลุ่มดาว ชี้ไปชี้มาศีรษะเกิดเผลอชนกัน บรรยาศให้มากเกินไป เนี่ยเฟยเฟยกลัวตัวเองจะเผลอปล้ำเนี่ยอี้ เลยรีบเปลี่ยนเรื่องด่วน หยิบขวดโซดาขึ้นมา พูดว่า “คุยเล่นกันนานขนาดนี้ คงอารมณ์ดีขึ้นมากแล้วสินะ? เราควรจะกลับไปกันได้แล้วละ”

เนี่ยอี้ “คืนนี้ผมไม่ได้อารมณ์ไม่ดี”

เนี่ยเฟยเฟย “ไม่ใช่ว่าเจี่ยนซีทำให้คุณอารมณ์ไม่ดีหรอกหรือ?”

เนี่ยอี้นิ่งคิด “ไม่ถือว่าอารมณ์ไม่ดี” แล้วขมวดคิ้ว “แค่รำคาญเท่านั้น”

เนี่ยเฟยเฟยทำหน้านิ่งคิด

เนี่ยอี้มองหน้าเธอ “คุณกำลังคิดอะไรอยู่?”

ความจริงเนี่ยเฟยเฟยกำลังคิดว่า สองชั่วโมงแบบนี้ในคืนนี้ ไม่แน่ว่ามากพอให้เธอหวนระลึกถึงไปทั้งชีวิตแล้ว แต่ปากตอบไปยิ้มๆ ว่า “ไม่มีอะไร แต่รู้สึกดีใจเฉยๆ เวลาคนเราดีใจมักจะรู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วมาก” แล้วกางแขนออกทำท่านกกระพือปีกบิน ปากพูดว่า “How time flies”

 

เนี่ยอี้กับเนี่ยเฟยเฟยกลับมาถึงในงานตอนเกือบเที่ยงคืนพอดี พอเนี่ยอี้กลับมาถึง ก็ถูกฝรั่งหนุ่มคนหนึ่งเข้ามาชวนคุยทันที เนี่ยเฟยเฟยจึงปลีกตัวออกไปยืนคนเดียวใต้ซุ้มประตูวงเดือนสานจากต้นไม้ที่ใช้ประดับในงาน

พอถึงเวลาเที่ยงคืน อยู่ดีๆ ทุกอย่างก็เงียบกริบ ทุกคนหยุดนิ่ง เนี่ยเฟยเฟยรู้สึกแปลกๆ เลยจะเดินไปรวมกลุ่มกับเพื่อนในก๊วนอีกทาง ปรากฏว่าถูกภรรยาเจ้าของเกาะสั่งแกมหัวเราะให้หยุด แล้วบอกว่านี่เป็นเกมที่จัดขึ้นทุกปีในงานปาร์ตี้นี้ พอถึงเวลาเที่ยงคืน หนุ่มที่ยืนใกล้สาวที่ยืนอยู่ใต้พวงมาลัยดอกไม้เหนือซุ้มประตูมากที่สุด จะมีสิทธิ์จูบเธอ 1 ครั้ง

ตอนนั้น ฉุนอวี๋เหวย นักดำน้ำผจญภัยที่เป็นไอ้หนุ่มเจ้าชู้และรู้กฎนี้ดีก็จงใจเข้ามายืนใกล้เนี่ยเฟยเฟยมากกว่าคนอื่น รีบกะลิ้มกะเหลี่ยจะเข้ามาจูบเธอ เนี่ยเฟยเฟยรีบเอาแก้มแชมเปญเปล่าขวางอย่างรวดเร็ว แก้วกระแทกหน้าฉุนอวี๋เหวยเต็มที่จนเขาบ่นอุบว่าทำไมไม่ว่าอะไรอยู่ในมือเนี่ยเฟยเฟย ก็กลายเป็นอาวุธได้หมดเลยเนี่ย แขกคนอื่นๆ ในงานพากันหัวเราะ

ภรรยาเจ้าของเกาะพูดยิ้มๆ กับฉุนอวี๋เหวยว่า “คุณก็รู้ดีว่าทุกครั้งที่พวกเราเล่นเกมนี้ สุภาพบุรุษที่คิดจะจูบสาวงามมักไม่ค่อยได้ดั่งใจกันหรอก พ่อหนุ่ม คุณต้องมีสปิริตความบันเทิงหน่อย”

ฉุนอวี๋เหวย “งั้นเคยมีใครทำสำเร็จบ้างไหมครับ?”

ภรรยาเจ้าของเกาะ “นั่นก็ต้องดูแหละนะว่าคุณสุภาพบุรุษมีความพยายามมากแค่ไหน”

ฉุนอวี๋เหวยพยายามเกลี้ยกล่อมเนี่ยเฟยเฟย “เจ๊เฟยเฟย ผมเคยบอกเจ๊มั้ยว่าข้อดีที่สุดของผมคือมีความมุ่งมั่น?”

แขกในงานพากันโห่ฮา เนี่ยเฟยเฟยเลิกคิ้ว “ฉันเคยบอกนายมั้ยว่า ข้อดีที่สุดของฉันคือคาราเต้...” พูดยังไม่ทันจบคำก็ถูกใครบางคนดึงตัวไปอีกทาง เนี่ยเฟยเฟยร้องว่า “เฮ้ คุณ...” พอเห็นตัวคนดึง คำพูดก็ชะงักอยู่แค่นั้น

ใบหน้าของเนี่ยอี้โน้มเข้ามาใกล้ แล้วจูบเธอ

เนี่ยเฟยเฟยตกตะลึงจังงัง เนี่ยอี้จูบเธออยู่นาน มือเธอยกขึ้นโอบรอบคอเขาเมื่อไหร่ไม่รู้ตัว ระหว่างนี้ได้ยินเสียงแขกในงานโห่ร้อง ปรบมือให้ และมีคนผิวปากหวือ

พอเนี่ยอี้ผละออก ฉุนอวี๋เหวยมองเธอสองคนปากอ้าตาค้าง เนี่ยเฟยเฟยก็ปากอ้าตาค้างเหมือนกัน ประโยคแรกที่ถามหลังถูกจูบคือ “เนี่ยอี้ คุณถือแก้วของฉันทำไมน่ะ?”

เนี่ยอี้ตอบเสียงนิ่งมาก “ผมเห็นน่ะสิว่าคุณใช้มันเป็นอาวุธยังไง”

ภรรยาเจ้าของเกาะเข้ามาต่อว่าเนี่ยอี้ว่าไม่ทำตามกฎแบบนี้ไม่ดีนะ ต้องให้สุภาพบุรุษคนที่อยู่ใกล้เธอมากที่สุดได้จูบเธอสิ”

เนี่ยอี้บอก “ผมอยู่ใกล้เธอมากที่สุดจริงๆ Mike เป็นพยานให้ได้”

ฝรั่งชื่อ Mike ที่เมื่อกี้นี้ลากตัวเนี่ยอี้ไปคุยด้วยพูดแบบนักวิทยาศาสตร์เต็มที่ว่า “จากการประเมินด้วยสายตาของผม คุณผู้ชายท่านนั้นอยู่ห่างจากแฟนของ Yee 2 เมตร ส่วน Yee อยู่ห่างจากเธอแค่ 0.6 เมตร เพียงแต่เราสองคนถูกรั้วบังไว้จึงไม่มีใครมองเห็นเท่านั้น ฮ่าๆๆ”

ภรรยาเจ้าของเกาะยักไหล่ “Yee ทำไมคุณถึงได้โชคดีอยู่เรื่อยเลยนะ?” ขาดคำเสียงดอกไม้ไฟก็ดังขึ้น ทุกคนพากันหันไปดู

หนิงจื้อหย่วน ช่างภาพผู้ช่วยของเนี่ยเฟยเฟยเข้ามาทวงเงินฉุนอวี๋เหวย 5000 ดอล ค่าที่แพ้พนัน ห้ามเบี้ยว

ถงถงรายงานให้เนี่ยเฟยเฟยรู้ว่า ฉุนอวี๋เหวยกับหนิงจื้อหย่วนพนันกันว่าจะจูบเนี่ยเฟยเฟยสำเร็จไหม ถ้าสำเร็จ หนิงจื้อหย่วนต้องจ่ายให้ฉุนอวี๋เหวย 5000 ดอล ถ้าไม่สำเร็จ ฉุนอวี๋เหวยต้องจ่ายหนิงจื้อหย่วน เนี่ยเฟยเฟยเคือง ถามว่าทำไมเธอไม่บอกฉันก่อนว่ามีเกมแบบนี้ ถงถงทำหน้าจะร้องไห้ บอกว่าโดนสองคนนั้นขู่ เลยไม่กล้าบอก

เนี่ยอี้หิ้วน้ำโซดาสองขวดเดินเข้ามาในจังหวะนี้พอดี ฉุนอวี๋เหวยหันไปเก็บเงินจากเนี่ยอี้แทน ค่าจูบเนี่ยเฟยเฟย

เนี่ยอี้มองหน้าสองหนุ่ม “แพงอย่างนี้เชียว?”

เนี่ยเฟยเฟยโมโห “แพงตรงไหนยะ?”

ฉุนอวี๋เหวยช่วยพูดว่า “ไม่แพงๆ นี่เป็นเฟิร์สคิสของเธอ”

เนี่ยเฟยเฟยหน้าแดงทันที เนี่ยอี้มองหน้าเธอ แล้วล้วงแบงค์ 10 หยวนจีนออกมาหนึ่งใบให้หนิงจื้อหย่วน บอก “ขอโทษที มีแค่นี้แหละ”

หนิงจื้อหย่วนถอนใจ “ขาดอีกเยอะโคตร...”

เนี่ยอี้พูดหน้าตาเฉย “ผมจน”

หนิงจื้อหย่วนถอนใจอีกรอบ “คนรวยเขาฮิตวิธีเบี้ยวเงินแบบนี้กันด้วย?”

เนี่ยอี้ดื่มโซดาไปหนึ่งอึก “ผมจนจริงๆ”

ฉุนอวี๋เหวยรีบฉวยโอกาสเผ่น “ฉันขอตัวก่อนนะ” แต่ถูกหนิงจื้อหย่วนคว้าคอไว้ “เกือบโดนอำสำเร็จแล้วเชียว นายเป็นคนพนันกับฉันชัดๆ ทำไมฉันต้องไปเก็บเงินจากบุคคลที่สามด้วยวะ?” แล้วพูดเสียงเหี้ยม “ห้าพันดอล ห้ามขาดแม้แต่เซ็นเดียว”

ฉุนอวี๋เหวย “ฉันก็จน”

หนิงจื้อหย่วนยิ้มแยกเขี้ยว “นายเล่นไม้นี้กับฉันไปก็ไร้ประโยชน์ ฉันรู้รายได้ของนายดีว่ะ”

สองคนทะเลาะกันไปพลางเดินไปพลางจนออกห่างไปไกล ส่วนถงถงก็อ้างว่าจะหาอะไรกินปลีกตัวออกไปเหมือนกัน ปล่อยให้เนี่ยอี้กับเนี่ยเฟยเฟยได้อยู่กันตามลำพัง

 

เนี่ยเฟยเฟยมองเนี่ยอี้ที่กำลังค่อยๆ ดื่มน้ำ เป็นฝ่ายถามเขาบ้างว่า “คุณกำลังคิดอะไรอยู่?”

เนี่ยอี้ “Time flies เวลาผ่านไปราวติดปีก”

เนี่ยเฟยเฟยตะลึงไปสามวินาที ค่อยพูดว่า “เนี่ยอี้ เรามาคุยกันหน่อย”

เนี่ยอี้ “ผมรู้ดีว่าคุณอยากจะพูดอะไร”

เนี่ยเฟยเฟย “คุณไม่รู้หรอก สมองของคุณเอามาใช้คิดหลักตรรกศาสตร์กับคิดประโยคคำพูดน่ะไม่มีปัญหา แต่ฉันอยากจะคุยเรื่องความรู้สึกกับคุณ”

เนี่ยอี้พยักหน้า “คุณว่ามาสิ”

เนี่ยเฟยเฟย “เนี่ยอี้ ความจริงฉันอยากจะถามคุณมานานแล้วว่า นอกจากโดพามีน นอร์อิพิเนฟริน เอนดอร์ฟิน ฟีนิลเอทิลเอมีน และฮอร์โมนจากต่อมใต้สมองแล้ว เมื่อมองจากแง่มุมที่ไม่ใช่หลักการทางชีววิทยา คุณคิดว่าความรักคืออะไร?”

นานมากกว่าเนี่ยอี้จะตอบ เสียงเขานิ่งมาก “คุณปู่ผมเคยทรยศคุณย่าผมในช่วงเวลาที่มีพันธะสมรสต่อกัน การร่วมคู่ของคุณพ่อคุณแม่ผมก็ไม่ใช่เพราะความรัก เซี่ยหลุนแต่งกับคุณหนูสกุลเจิ้งเป็นการแต่งงานเพื่อธุรกิจ เนี่ยอินชอบเจี่ยนซี ผลคือทำตัวเองจนเป็นเหมือนคนบ้า เจี่ยนซีบอกว่ารักผม เรื่องที่เธอทำตั้งแต่เล็กจนโตก็คือทำให้ผมรู้สึกอยู่ตลอดว่าการไม่รักตอบเธอคือผมมีความผิดอย่างมหันต์” เขาสรุปว่า “ผมไม่เคยเห็นความรักไหนที่มันดีเลย”

เนี่ยเฟยเฟยอึ้งไปเลย

เนี่ยอี้ “คุณถามจบแล้ว คราวนี้ถึงตาผมถามคุณบ้าง เมื่อสองเดือนก่อนคุณพูดถูกแล้ว เรื่องรอบๆ ตัวผมไม่เกี่ยวอะไรกับคุณเลย ผมทำไม่ถูกที่เอาตัวคุณเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เรื่องพวกนี้ผมจัดการเกือบเรียบร้อยแล้ว ได้พบกับคุณอีกครั้ง ผมยังคงรู้สึกว่าเราสองคนเหมาะสมกันมากอยู่เหมือนเดิม ไม่สิ...” เขาพูดช้าๆ “ในช่วงเวลานี้ ผมเห็นว่าเราสองคนเหมาะสมกันมากที่สุด จะเป็นคนในครอบครัวของกันและกันที่ดีที่สุด ผมยังคงหวังว่าจะได้แต่งงานกับคุณ คุณจะยินดีแต่งงานกับผมไหม?”

เนี่ยเฟยเฟย “ที่คุณบอกว่าช่วงเวลานี้ ช่วงเวลานี้คือช่วงเวลาไหนคะ?”

เนี่ยอี้ “ช่วงเวลาที่คุณเห็นเครื่องช่วยดำน้ำสำคัญกว่าความรัก”

เนี่ยเฟยเฟย “เนี่ยอี้...”

เนี่ยอี้ตัดบทเธอว่า “บางทีสักวันหนึ่งคุณอาจจะได้พบกับคนที่ดีกว่าผม ฉลาด รวย นิสัยดี ซื่อสัตย์ แล้วยังรักคุณ ถึงตอนนั้นคุณสามารถไปจากผมได้”

เนี่ยเฟยเฟย “เพราะอะไรคะ?”

เนี่ยอี้เหมือนทำท่าคิด ผ่านไปสองวินาทีค่อยตอบว่า “เฟยเฟย คุณดีมาก ดีกว่าที่ผมคิดไว้ ช่วงเวลานี้คุณกับผมอยู่ด้วยกันจะดีที่สุด คุณเองก็จะรู้จักพอ แต่ถ้าสักวันหนึ่งคุณอยากจะได้มากยิ่งกว่านี้ คุณก็คู่ควร”

เนี่ยเฟยเฟย “ถ้าเกิดมีเวลาที่ฉันอยากจะได้มากยิ่งกว่านี้ ทำไมคุณถึงเป็นคนมอบให้ฉันไม่ได้ล่ะ?”

เนี่ยอี้ “บางทีอาจมีสักวันที่ผมอยากจะมอบให้คุณ คุณกลับไม่ต้องการ ผมยอมรับว่าผมไม่ค่อยชอบถกหัวข้อเรื่องความรักนี่สักเท่าไหร่ และไม่อยากไปศึกษามันให้มากเกินไปด้วย แต่มันก็ไม่ง่ายดายเลยจริงๆ ผู้ให้กับผู้รับต้องเหมาะสมอย่างมาก ซึ่งสถานการณ์แบบนี้พบเห็นได้น้อยมาก”

เนี่ยเฟยเฟย “คำพูดพวกนี้เข้าใจยากมาก”

เนี่ยอี้มองหน้าเธอ “คุณร้องไห้หรือ?”

เนี่ยเฟยเฟยเช็ดน้ำตาไปพลางพูดล้อเขาเล่นไปพลาง “ที่คุณพูดมาพวกนี้เข้าใจยากเกินไป ยากจนฉันร้องไห้เลยค่ะ”

เนี่ยอี้เงียบไปอึดใจ “ดังนั้น คุณไม่ยินดี?”

เนี่ยเฟยเฟยเดินเข้าไปกอดเขา “ต้องยินดีอยู่แล้ว เนี่ยอี้ ฉันต้องยินดีแต่งงานกับคุณแน่ละ คุณพูดถูก เราสองคนจะเป็นคนในครอบครัวของกันและกันที่ดีที่สุด เราจะไม่พรากจากไม่ทอดทิ้งกัน อยู่ด้วยกันอย่างดี”

 

เนิ่นนานหลังจากนั้น คังซู่หลัวถามเนี่ยเฟยเฟยว่า เธอเห็นว่าตอนนั้นเนี่ยอี้รักเธอบ้างสักนิดไหม?

แม้แต่หลังจากแต่งงานกันแล้ว เนี่ยเฟยเฟยก็ไม่เคยถามเนี่ยอี้เรื่องนี้ เธอไม่เคยรู้ว่าเขาเริ่มชอบเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ และไม่รู้ว่าเขาเริ่มรักเธอตั้งแต่เมื่อไหร่

ตอนนั้นเธอไม่เคยคิดถึงว่าอนาคตของเธอกับเขาจะเป็นอย่างไร ณ เวลานั้นเธอแค่รู้สึกมีความสุขมาก หัวใจของเธอกับเขาแนบชิดกันมาก เธอแอบบอกเขาอยู่เงียบๆ ในใจว่า “เนี่ยอี้ สิ่งที่ฉันมอบให้คุณ จะต้องเป็นความรักที่ดีมากๆ อย่างแน่นอน”

ฉันไม่เคยรักใครแบบนี้มาก่อน ทุกอย่างของเขาฉันชอบทั้งหมด เขาบอกว่าฉันดีมาก ฉันคู่ควรกับคนที่ดียิ่งกว่า ฉันกลับคิดว่า เนี่ยอี้ คุณไม่รู้หรอกว่าฉันเปลี่ยนเป็นดีมากอย่างนี้เพื่อใคร หากฉันดีมากขนาดนั้นจริงๆ อย่างนั้นคนที่ฉันคู่ควร ก็มีแต่คุณเท่านั้น

 

 

 
แก้ไขเมื่อ 9 ต.ค. 2560, 20:28 โดย หลินโหม่ว

Admin เข้าร่วมเมื่อ 28 ก.ย. 2560, 15:20

0 ความคิดเห็น